ตลาดแรก (Primary Market) คือตลาดที่ทำการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก โดยส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อตรงจากผู้ออกหลักทรัพย์ และไม่ผ่านตัวกลางใดๆ แบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ
1. การเสนอขายแก่ประชาชน (Public Offering) หรือ PO
หากทำการเสนอขายแก่ประชาชนครั้งแรกเรียกว่า IPO หรือ (Initial Public Offering)
2. การเสนอขายวงจำกัด (Private Placement) หรือ PP
คือทำการขายในวงจำกัดกลุ่มผู้ซื้อ เช่นไม่เกิน 50 ราย ภายใน 12 เดือน หรือ มูลค่ารวมไม่เกิน 20 ล้านบาท ภายใน 12 เดือน หรือ ขายแก่ผู้ลงทุนสถาบันที่ กลต. กำหนด (13 ประเภท) เช่น บริษัทแบงค์ ประกัน กองทุน
3. การเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) หรือ RO
ตลาดรอง (Secondary Market) คือตลาดที่ทำการซื้อขายหลักทรัพย์หลังจากมีการซื้อขายในตลาดแรก โดยส่วนใหญ่จะทำการซื้อขายผ่านตัวกลาง เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) ,ตลาดหลักทรัพย์MAI , ตลาดตราสารหนี้(BEX), ตลาดอนุพันธ์(TFEX) เป็นต้น แบ่งออกเป็น
1. ตลาดอย่างเป็นทางการ (Exchange)
เป็นการซื้อขายผ่านตัวกลางที่เป็นทางการเช่น
SET (The Stock Exchange of Thailand) หรือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เป็นตลาดที่มีการซื้อขายหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ และใบสำคัญแสดงสิทธิ(Warrant)
MAI (Market for Alternative Investment) หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
เป็นตลาดที่มีการซื้อขายหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ และใบสำคัญแสดงสิทธิ(Warrant) เหมือน SET แต่บริษัทจดทะเบียนจะมีขนาดที่เล็กกว่า SET
BEX (Bond Electronic Exchange) หรือ ตลาดซื้อขายตราสารหนี้
เป็นตลาดที่มีการซื้อขายตราสารหนี้ต่างๆ ทั้งตราสารหนี้ภาครัฐบาล และเอกชน
AFET (Agriculture Futures Exchange of Thailand) หรือ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า
เป็นตลาดที่มีการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เช่น ข้าวขาว ยางพารา และมันสำปะหลัง
TFEX (Thailand Futures Exchange) หรือ ตลาดซื้อขายตราสารอนุพันธ์ทางการเงิน
เป็นตลาดที่มีการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ เช่น SET index future, Gold future เป็นต้น
2. ตลาดผู้ซื้อขายทำธุรกรรมกันเอง (Over the counter)
เป็นการซื้อขายโดยไม่ผ่านตัวกลางที่เป็นทางการ ส่วนใหญ่มักเป็นการทำธุรกรรมของรายใหญ่
ระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ตลาดที่เป็นทางการ
สัญลักษณ์บนกระดานซื้อขาย
XM (Excluding Meeting) ผู้ซื้อหุ้น ไม่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น
XD (Excluding Dividend) ราคาซื้อขาย ไม่รวมถึงเงินปันผล
XI (Excluding Interest) ราคาซื้อขายไม่รวมดอกเบี้ย
XR (Excluding Right) ราคาซื้อขายไม่รวมสิทธิในการจองหุ้นใหม่
XW (Excluding Warrants) ราคาซื้อขายไม่รวม Warrants อายุ 2 เดือน – 10 ปี
XT (Excluding Transferable Subscription Rights) ราคาซื้อขายไม่รวม Warrant ที่โอนสิทธิได้
XA (Excluding All) ราคาซื้อขายไม่รวมสิทธิตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไป เช่น XD+XR ในครั้งเดียว
NC (Non-Compliance) หลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน
ST (Stabilization) หุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีการซื้อหุ้นเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกิน
NP (Notice Pending) อยู่ระหว่างรอข่าวสาร หรือส่งข้อมูลยังไม่ครบถ้วนแก่ตลาด
NR (Notice Received) ได้ข้อมูลแล้วจาก NP และขึ้นเครื่องหมาย NR 1 วัน
H (Trading Halt) ห้ามการซื้อขายหุ้นจดทะเบียนชั่วคราว ไม่เกิน 1 รอบ โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้:
1. มีข้อมูลหรือข่าวสารที่สำคัญที่อาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหลักทรัพย์ หรือต่อการตัดสินใจในการลงทุนหรือต่อการเปลี่ยนแปลงในราคาของหลักทรัพย์ซึ่ง ตลาดหลักทรัพย์ยังไม่ได้รับรายงานจากบริษัท และอยู่ในระหว่างการสอบถามข้อ เท็จจริง และรอคำชี้แจงจากบริษัท และตลาดหลักทรัพย์เห็นว่าบริษัทสามารถชี้แจงได้ในทันที
2. ภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทใดบริษัทหนึ่งน่าสงสัยว่าจะมีผู้ลงทุนบางกลุ่ม ทราบข้อมูลหรือข่าวสารที่สำคัญ และอยู่ในระหว่างการสอบถามข้อเท็จจริงจากบริษัท และตลาดหลักทรัพย์เห็นว่าบริษัทสามารถชี้แจงได้ทันที
3. บริษัทร้องขอให้ตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเป็นการชั่วคราว เนื่องจากบริษัทอยู่ในระหว่างรอการเปิดเผยข้อมูลหรือข่าวสารที่สำคัญ และตลาด หลักทรัพย์เห็นว่าบริษัทสามารถชี้แจงได้ในทันที
4. มีเหตุอื่นใดที่อาจมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการซื้อขายหลักทรัพย์นั้น
SP (SUSPENSION) ห้ามการซื้อขายหุ้นจดทะเบียนชั่วคราว มากกว่า 1 รอบ โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้:
1. เมื่อเกิดกรณีเช่นเดียวกับข้อ 1 ถึง 3 ของการขึ้นเครื่องหมาย H และตลาดหลักทรัพย์ เห็นว่าบริษัทไม่สามารถชี้แจงหรือเปิดเผยข้อมูลได้ในทันที
2. บริษัทนั้นไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ เรื่องการเปิดเผยข้อมูล ป้าย "NP" (Notice Pending) จะโดนเปลี่ยนเป็นป้าย "SP"
3. บริษัทไม่จัดส่งงบการเงินตามข้อบังคับภายใน 5 วันทำการ หลังจากการติดป้าย "NP
4. บริษัทไม่จัดส่งงบการเงินตามข้อบังคับ 2 ครั้งติดต่อกัน(NP 2 ครั้ง) และยังไม่ส่งตามกำหนดอีกเป็นครั้งที่ 3
5. บริษัทไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ เรื่องการเปิดเผยข้อมูล หรือราคาหุ้นของบริษัทเปลี่ยนแปลง โดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ
6. หลักทรัพย์จะครบกำหนดเวลาในการไถ่ถอนหรือการแปลงสภาพหรือการใช้สิทธิหรือ การขายคืน
7. บริษัทอยู่ในข่ายอาจถูกเพิกถอนหลักทรัพย์ หรืออยู่ระหว่างการปรับปรุงสถานภาพเพื่อให้ พ้นข่ายการถูกเพิกถอน
8. มีเหตุอื่นใดที่อาจมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการซื้อขายหลักทรัพย์นั้น